ลามิน ยามาล จัดให้ พาบาร์ซ่า คัมแบ็ค แม้จะโดนตราหมี นำก่อน 2-0 ก่อนมารัวท้ายเกม ชนะไป 4-2

ลามิน ยามาล 18 Mar

ลามิน ยามาล จัดให้ พาบาร์ซ่า คัมแบ็ค แม้จะโดนตราหมี นำก่อน 2-0 ก่อนมารัวท้ายเกม ชนะไป 4-2

ลามิน ยามาล (Lamine Yamal) ใช้เวลาเกือบห้าเดือนในการค้นหาประตูใน ลา ลีกา (LaLiga) อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นับตั้งแต่เกม เอล กลาซิโก (El Clásico) ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabéu) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เขาไม่สามารถทำประตูในการแข่งขันลีกปกติได้ แม้ว่าเขาจะทำได้ใน โกปา เดล เรย์ (Copa del Rey), ซูเปอร์โกปา (Supercopa) และ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) แต่เขายังมีความรู้สึกค้างคาใจ และคืนนี้เขาได้ปลดปล่อยความรู้สึกนั้นออกไปด้วยการทำประตูในช่วงทดเวลาที่ช่วยให้ บาร์ซา (Barça) ขึ้นนำในการแข่งขัน “ผมรู้ดีว่าถ้าผมจะทำประตู มันจะเกิดขึ้นในเกมสำคัญ” ลามิน ยามาล (Lamine Yamal) กล่าวหลังจบการแข่งขัน เขามีความสุขกับประตูของตัวเองและชัยชนะของ บาร์ซา (Barça) ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ทีมจาก คาตาลุนญา (Cataluña) รักษาสถิติผลงานที่ยอดเยี่ยม โดยยังไม่แพ้ใครเลยในปี 2025 แต่ยังช่วยให้พวกเขารักษาตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนน แม้จะลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งนัดก็ตาม “ผมมีความสุขมากกับชัยชนะ สามแต้มนี้สำคัญมาก พวกเราอยู่ในห้องแต่งตัวและมีความสุขด้วยกัน” นักฟุตบอลทีมชาติ สเปน (Spain) วัยเยาว์กล่าวอย่างมีความสุข นักฟุตบอลหลายคนถ่ายรูปร่วมกันในอ่างน้ำวนด้วยความตื่นเต้น ทีมตราหมี ต้องการกลับมาชนะได้อย่างมีค่าในวันอาทิตย์นี้ “จากความโกรธและความรู้สึกหมดหนทาง เราได้แสดงด้านที่ดีที่สุดของเราออกมา ประตูของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) มีความสำคัญมาก รวมถึงประตูของ เฟร์ราน (Ferran) ด้วย หลังจากนั้นประตูอื่นๆ ก็เกิดขึ้นเองแทบจะโดยอัตโนมัติ”

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) ทำประตูแรกให้กับทีม บาร์เซโลนา (Barcelona) จุดประกายความหวังให้ บาร์ซ่า

 

ทำให้เวลานี้ยิ่งเพิ่มระยะห่างจาก เอ็มบัปเป้ (Mbappé) ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดของ ลา ลีกา (LaLiga) หลังจากที่นักเตะชาว ฝรั่งเศส (France) ทำสองประตูในเกมกับ บียาร์เรอัล (Villarreal) กองหน้าทีมชาติ โปแลนด์ (Poland) ทำไปแล้ว 22 ประตูหลังจากยิงที่ เมโทรโปลิตาโน (Metropolitano) มากกว่านักเตะทีม มาดริด (Madrid) สองประตู อดีตนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) มีทั้งหมด 35 ประตูในทุกรายการแข่งขันฤดูกาลนี้ เขาทำสถิตินี้ใน 40 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดของเขาในฤดูกาลเดียวกับ บาร์เซโลนา (Barcelona) และเขายังเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำประตูได้ถึงจำนวนนี้นับตั้งแต่ ลีโอเนล เมสซี่ (Leo Messi) ในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งทำได้ 38 ประตูจาก 47 นัด

 

การกลับมาของ ลามิน ยามาล (Lamine Yamal)  ผู้นำคนใหม่ของ บาร์เซโลนา (Barcelona) บนเส้นทางสู่แชมป์

 

ในค่ำคืนอันน่าจดจำที่สนาม เมโทรโปลิตาโน (Metropolitano) ลามิน ยามาล (Lamine Yamal) ดาวรุ่งวัย 17 ปีของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองอีกครั้งด้วยการทำประตูสำคัญในช่วงทดเวลา ซึ่งเป็นการยุติการรอคอยที่ยาวนานถึงห้าเดือนสำหรับประตูในการแข่งขัน ลา ลีกา (LaLiga) ของเขา หลังจากที่เคยทำประตูสุดท้ายในลีกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมในเกม เอล กลาซิโก (El Clásico) ที่สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabéu) “มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยมานาน” ยามาล (Yamal) กล่าวด้วยรอยยิ้มหลังเกม “แม้ว่าผมจะทำประตูได้ในรายการอื่นๆ เช่น โกปา เดล เรย์ (Copa del Rey), ซูเปอร์โกปา (Supercopa) และ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) แต่การได้กลับมาทำประตูใน ลา ลีกา (LaLiga) อีกครั้งเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมสำคัญเช่นนี้ ทางเข้าสโบ ผมมักรู้สึกว่าประตูของผมจะมาในช่วงเวลาที่ทีมต้องการมากที่สุด และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้” ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายมากกว่าแค่สามคะแนนสำหรับ บาร์เซโลนา (Barcelona) เนื่องจากช่วยให้พวกเขารักษาตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนน ลา ลีกา (LaLiga) และยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายตลอดปี 2025 ซึ่งเป็นผลงานที่น่าประทับใจภายใต้การนำของโค้ช ฮานซี่ ฟลิค (Hansi Flick) บรรยากาศในห้องแต่งตัวหลังเกมเต็มไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ โดยนักเตะหลายคนได้ถ่ายภาพร่วมกันในอ่างน้ำวนเพื่อเป็นที่ระลึก

“ชัยชนะนี้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของทีมเรา” ยามาล (Yamal) กล่าวเสริม “เราเริ่มต้นเกมไม่ดีนัก แต่เราไม่เคยยอมแพ้ เราสามารถพลิกสถานการณ์จากความโกรธและความรู้สึกหมดหนทางให้กลายเป็นพลังในการพลิกเกม ประตูของ โรเบิร์ต (Robert) เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ตามด้วยประตูของ เฟร์ราน (Ferran) และหลังจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น” การพลิกกลับมาเอาชนะในเกมนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจของทีม บาร์เซโลนา (Barcelona) แต่ยังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผู้เล่นแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) ที่ยังคงพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก ด้วยประตูล่าสุดที่ เมโทรโปลิตาโน (Metropolitano) ทำให้เขามีทั้งหมด 22 ประตูใน ลา ลีกา (LaLiga) ฤดูกาลนี้ ทิ้งห่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappé) กองหน้าของ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ที่มี 20 ประตู เลวานดอฟสกี้ (Lewandowski) ไม่เพียงแต่นำในการแข่งขันชิงรางวัล ปิชิชิ (Pichichi) สำหรับดาวซัลโวสูงสุดของลีก แต่เขายังทำประตูรวมทั้งสิ้น 35 ประตูในทุกรายการแข่งขันฤดูกาลนี้ จาก 40 นัด ซึ่งเป็นสถิติส่วนตัวที่ดีที่สุดของเขาในฤดูกาลเดียวกับ บาร์เซโลนา (Barcelona) และเขายังเป็นนักฟุตบอลคนแรกของสโมสรที่ทำประตูได้ถึงจำนวนนี้นับตั้งแต่ ลีโอเนล เมสซี่ (Leo Messi) ในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งทำได้ 38 ประตูจาก 47 นัด “ผมรู้สึกว่ากำลังเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดในชีวิตของผม” เลวานดอฟสกี้ (Lewandowski) กล่าวหลังเกม “แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสำเร็จของทีม เรามีโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการคว้าแชมป์ ลา ลีกา (LaLiga) และยังมีโอกาสใน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ด้วย การได้เห็นนักเตะรุ่นใหม อย่าง ลามิน  (Lamine) แสดงศักยภาพออกมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคน”

ฮานซี่ ฟลิค (Hansi Flick) กุนซือของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ก็ไม่ได้ซ่อนความพอใจของเขาหลังเกม “นี่เป็นชัยชนะที่สำคัญมาก เราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเอง แม้ว่าเราจะเผชิญกับความยากลำบากในช่วงแรกของเกม ลามิน (Lamine) เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์พิเศษ และวันนี้เขาพิสูจน์อีกครั้งว่าทำไมเขาถึงเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก” การกลับมาทำประตูของ ยามาล (Yamal) ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อตัวเขาเอง แต่ยังมีความสำคัญต่อสโมสรในภาพรวม ในช่วงเวลาที่ บาร์เซโลนา (Barcelona) ต้องการความมั่นใจและแรงผลักดันเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูง ดาวรุ่งวัย 17 ปีได้ก้าวขึ้นมาและแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมที่จะรับบทบาทผู้นำแม้ในวัยเยาว์ เส้นทางสู่ความสำเร็จของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ในฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล ทางเข้าสโบ แต่ด้วยการผสมผสานระหว่างประสบการณ์ของนักเตะอย่าง เลวานดอฟสกี้ (Lewandowski) และความสดใหม่ของเยาวชนอย่าง ยามาล (Yamal) ทีมจาก คาตาลุนญา (Cataluña) มีทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อจบฤดูกาลด้วยความสำเร็จ ชัยชนะที่ เมโทรโปลิตาโน (Metropolitano) ไม่เพียงเป็นสามแต้มสำคัญ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่า บาร์เซโลนา (Barcelona) พร้อมที่จะต่อสู้จนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล สำหรับ ลามิน  ยามาล (Lamine Yamal) การทำประตูในคืนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในช่วงท้ายฤดูกาล แฟนๆ บาร์เซโลนา (Barcelona) หวังว่าดาวรุ่งของพวกเขาจะสามารถรักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ขณะที่พวกเขาเข้าสู่ช่วงสำคัญของฤดูกาล ด้วยความท้าทายทั้งใน ลา ลีกา (LaLiga) และ แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ที่รออยู่ข้างหน้า “เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน และเรากำลังทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น” ยามาล (Yamal) กล่าวทิ้งท้าย “ความสามัคคีและจิตวิญญาณของทีมเราเป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เราจะสู้ต่อไปจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของฤดูกาลนี้”

เรอัล มาดริด พบ แอตเลติโก มาดริด 5 Mar

เรอัล มาดริด พบ แอตเลติโก มาดริด

เรอัล มาดริด พบ แอตเลติโก มาดริด

เรอัล มาดริด (Real Madrid) ยังไม่สามารถเอาชนะแอตเลติโก มาดริด (Atletico Madrid) ได้เลยในสองครั้งที่พบกันฤดูกาลนี้

เรอัล มาดริดต้องเผชิญกับบททดสอบสำคัญอีกครั้งในการป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (Champions League) โดยต้องดวลกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแอตเลติโก มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ทีมแชมป์เก่าผ่านเข้าสู่รอบนี้หลังจากเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์ปี 2023 ด้วยผลรวม 6-3 ในรอบเพลย์ออฟ แต่เส้นทางของพวกเขาจะไม่ง่ายขึ้นเลยเมื่อต้องเจอกับทีมของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยตรงหลังจากจบในกลุ่มท็อป 8 ของรอบแบ่งกลุ่ม eaxybox

ประเด็นที่น่าสนใจ

เรอัล มาดริดยังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเอาตัวรอดจากเกมที่เล่นได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฤดูกาลนี้พวกเขาไม่ได้มีฟอร์มที่คงเส้นคงวาเท่ากับปีก่อน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทีมชั้นนำ ซึ่งทำให้เกมนัดแรกในวันอังคารนี้กับแอตเลติโก มาดริด – ทีมที่พวกเขายังไม่สามารถเอาชนะได้เลยในฤดูกาลนี้  น่าสนใจยิ่งขึ้น eaxybox

“ราชันชุดขาว” จะได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ก่อนเกมนี้ หลังจากคาร์โล อันเชล็อตติเลือกหมุนเวียนผู้เล่นในเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับเรอัล เบติส 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แนวรับของเรอัล มาดริดจะต้องรับมือกับแนวรุกที่อันตรายของแอตเลติโก นำโดย ฮูเลียน อัลวาเรซ, อองตวน กรีซมันน์ และอเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริดเองก็มีแนวรุกระดับเวิลด์คลาสเช่นกัน และอาจต้องพึ่งฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ คีเลียน เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ หรือจู๊ด เบลลิงแฮม (ซึ่งจะพลาดเกมแรกเพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง) เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

เรอัล มาดริด: กูร์กตัวส์, บัลเบร์เด้, อเซนซิโอ, ชูอาเมนี, รือดิเกอร์, เมนดี้, กูเลอร์, กามาวินก้า, โมดริช, เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส

แอตเลติโก มาดริด: โอบลัค, กาลัน, ล็องเลต์, ฆิเมเนซ, ยอเรนเต้, ลิโน, บาร์ริออส, เดอ ปอล, ซิเมโอเน่, อัลวาเรซ, กรีซมันน์

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน

ทั้งสองทีมมีศักยภาพพอที่จะทำประตูและป้องกันเกมรุกของคู่แข่งได้ ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นการแข่งขันที่สูสีและตื่นเต้นที่สุดของรอบนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาเสมอกันมาแล้วสองครั้งในศึกลาลีกาฤดูกาลนี้ด้วยสกอร์ 1-1

คาดการณ์ผลการแข่งขัน: เรอัล มาดริด 1-1 แอตเลติโก มาดริด