เป๊ปตัดสินใจครั้งสำคัญหลังแมนซิตี้พ่ายแพ้สองนัดติด

เป๊ปตัดสินใจครั้งสำคัญหลังแมนซิตี้พ่ายแพ้สองนัดติด 28 Nov

เป๊ปตัดสินใจครั้งสำคัญหลังแมนซิตี้พ่ายแพ้สองนัดติด

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับเป๊ป

 

เมื่อพูดถึงบทบาทของผู้จัดการทีมในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คงไม่มีใครไม่รู้จักเป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แมนซิตี้) ที่ได้สร้างชื่อเสียงถึงความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเร็วๆ นี้เป๊ปพบว่าตัวเองต้องเผชิญกับความท้าทายหลังจากที่แมนซิตี้ แพ้สองนัดติด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้เป๊ปต้องคิดหาทางเปลี่ยนแปลงเพื่อพลิกสถานการณ์

 

ความเสียหายจากการแพ้สองนัดในพรีเมียร์ลีก

 

ความพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่สะท้อนถึงปัญหารูปแบบการเล่นของทีมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อกำลังใจของนักเตะและแฟนบอลด้วย การพ่ายแพ้ย่อมสร้างความผิดหวังและทำให้คำถามเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของทีมบังเกิดขึ้น การพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันนั้นสิ่งที่ทีมที่มีศักยภาพสูงเช่นแมนซิตี้ไม่ควรพบเจอ แต่ในกีฬาอะไรย่อมเกิดขึ้นได้

 

บทบาทของเป๊ปในชีวิตประจำวันของทีม

 

การบริหารจัดการของเป๊ปไม่ได้จำกัดอยู่แค่แผนการเล่นและกลยุทธ์ในสนามเท่านั้น แต่รวมถึงการดูแลเชิงจิตวิทยาของนักเตะ การสร้างบรรยากาศภายในทีมที่ดี และการวางแผนระยะยาวเพื่อรักษาฟอร์มที่ดีอยู่เสมอ เป๊ปมักจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักเตะเพื่อทำความเข้าใจปัญหาจุดอ่อนที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไขร่วมกัน ความสำเร็จที่ผ่านมาแม้จะช่วยสร้างความมั่นใจแต่ก็ย่อมต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่าเสมอเมื่อต้องการรักษามาตรฐานไว้

 

การตัดสินใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์

 

หลังจากผ่านความพ่ายแพ้เป๊ปได้พิจารณาถึงต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการเล่นเพื่อมองหาวิธีที่สามารถนำทีมกลับมาสู่ชัยชนะได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทดลองแผนการเล่นใหม่หรือการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนักเตะเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ลูกหนังที่เปลี่ยนแปลงไป

 

การเดิมพันที่ต้องยอมเสี่ยง

 

การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในโลกของฟุตบอลมักตามมาด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีวิธีไหนที่การันตีว่าการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จะนำมาซึ่งชัยชนะ แต่อย่างไรก็ตามเป๊ปต้องเลือกที่จะเสี่ยงเพื่อให้มีสิทธิ์ที่จะฟื้นกลับมา ดังคำกล่าวที่ว่า “ความสำเร็จไม่ได้มาจากการไม่ทำผิดพลาด แต่จากการปรับปรุงจากข้อผิดพลาดนั้น”

 

เป้าหมายและความหวังสำหรับอนาคต

 

แมนซิตี้ยังคงมีศักยภาพในการกลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง การลดความพ่ายแพ้ในช่วงต้นสามารถเป็นแค่บรรทัดฐานที่ดีในการพิจารณาถึงวิถีทางที่ต้องดำเนินต่อไปในอนาคต เป๊ปกวาร์ดิโอลาย่อมรู้ดีว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากการเข้าเส้นชัยในช่วงแรกแต่เป็นการวิ่งระยะยาวที่ต้องอดทนและปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนไปเสมอ

 

สรุป

 

การตัดสินใจครั้งสำคัญของเป๊ปอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะนำทีมแมนซิตี้กลับสู่เส้นทางของความสำเร็จอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงและปรับกลยุทธ์ในช่วงนี้หากดำเนินไปด้วยดีอาจส่งผลให้ทีมฟุตบอลจากพรีเมียร์ลีกนี้กลับมาสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการดำเนินการและความร่วมมือของทั้งทีมที่ต้องจับมือกันเพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป

นิวคาสเซิ่ลเชือดสเปอร์ส 2-0 ลิ่ว 8 ทีมบาว คัพ 31 Oct

นิวคาสเซิ่ลเชือดสเปอร์ส 2-0 ลิ่ว 8 ทีมบาว คัพ

นิวคาสเซิ่ลเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของบาวคัพ

 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดได้สร้างผลงานอันน่าประทับใจด้วยการเอาชนะสเปอร์ส 2-0 เหมือนเช่นเคยทีพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในสนาม อันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลบาวคัพในฤดูกาลนี้ บอกกล่าวถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของทั้งทีมที่ต้องการเก็บชัยชนะมาสู่สโมสร

 

บทวิเคราะห์เกม

 

ในการพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่สนามเหย้าของนิวคาสเซิ่ล โดยพวกเขาเปิดบ้านรับการมาเยือนจากสเปอร์ส ที่มาพร้อมความหวังที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น นิวคาสเซิ่ลสามารถคุมเกมไว้ในมือ โดยมีการเล่นที่รัดกุมและเป็นระบบ ทั้งนี้พวกเขายังใช้ความเร็วและความชำนาญในการเคลื่อนที่ของนักเตะในสนามอย่างมีประสิทธิภาพ

 

เมื่อเริ่มเกม นิวคาสเซิ่ลเป็นฝ่ายที่เปิดเกมบุกตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งในครึ่งแรกพวกเขาสามารถทำประตูนำได้จากการขึ้นโหม่งของกองหน้าตัวเก่งที่ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ลยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีต่อไปและสามารถทำประตูที่สองเพิ่มได้ จึงทำให้เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของนิวคาสเซิ่ล 2-0

 

ปัจจัยที่นำไปสู่ชัยชนะ

 

หลายปัจจัยที่ทำให้นิวคาสเซิ่ลได้รับชัยชนะในเกมนี้ หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญคือการวางแผนที่เป็นระบบและการเลือกใช้นักเตะที่เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากนี้ การฝึกซ้อมที่มีคุณภาพและการจัดการที่ดีของโค้ทยังส่งผลให้ทีมสามารถลงสนามด้วยความมั่นใจ

 

อีกปัจจัยหนึ่งคือการสนับสนุนจากแฟนบอลของนิวคาสเซิ่ลที่มาให้กำลังใจทีมนักเตะในสนาม ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ช่วยให้นักเตะมีแรงจูงใจในการสู้กับทีมเยือนอย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ในการแข่งขันระดับนี้

 

ความมุ่งมั่นในอนาคต

 

ชัยชนะในนัดนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่สำหรับนิวคาสเซิ่ล พวกเขาไม่นำการสำเร็จนี้มาเป็นที่พักพิง แต่กลับมองไปข้างหน้าเพื่อการพัฒนาทีมให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของบาวคัพเป็นความสำเร็จที่ส่งเสริมให้ทีมมีแรงบันดาลใจในการทำงานหนักต่อไป

 

การที่นิวคาสเซิ่ลสามารถเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้ ไม่เพียงแต่แสดงถึงความสามารถของทีมในการแข่งขัน แต่ยังเป็นการยืนยันให้เห็นว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของวงการฟุตบอล อนาคตที่สดใสย่อมเห็นได้ชัดเจนสำหรับแฟนบอลและผู้สนับสนุนที่เฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิด

 

สเปอร์สกับการปรับปรุงทีม

 

สำหรับสเปอร์ส แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่สิ่งที่สเปอร์สสามารถนำกลับไปปรับปรุงได้คือการวิเคราะห์การเล่นของนิวคาสเซิ่ลที่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพยายามเพื่อพัฒนาความสามารถของนักเตะในทีมจะเป็นสิ่งสำคัญที่สเปอร์สต้องมุ่งเน้น การได้รับบทเรียนจากเกมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตและปรับปรุงทีมอย่างต่อเนื่อง

 

ท้ายที่สุด ความสำเร็จในการแข่งขันบาวคัพครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลในประเทศอังกฤษ การแข่งขันที่เต็มไปด้วยทักษะ การวางแผน และความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งนิวคาสเซิ่ลและสเปอร์สได้แสดงให้เห็นถึงวิถีของนักกีฬาอาชีพที่แท้จริง

ทีมชาติไทยพ่ายอิรักในนัดชิงคิงส์คัพครั้งที่ 51 17 Oct

ทีมชาติไทยพ่ายอิรักในนัดชิงคิงส์คัพครั้งที่ 51

ผลการแข่งขันคิงส์คัพครั้งที่ 51: ทีมชาติไทยพบกับอิรัก

 

การแข่งขันคิงส์คัพครั้งที่ 51 เป็นอีกหนึ่งศึกที่มีความสำคัญ โดยในการแข่งขันนัดชิง ทีมชาติไทยเผชิญหน้ากับทีมชาติอิรัก ซึ่งเป็นคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งและมีประวัติการแข่งขันที่ดีในระดับนานาชาติ แม้ทีมชาติไทยจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ในท้ายที่สุดต้องยอมรับความพ่ายแพ้

 

บรรยากาศก่อนการแข่งขัน

 

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังจากแฟนบอลทั้งสองประเทศ ทีมชาติไทยเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ในขณะที่ทีมชาติอิรักก็มุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะครั้งนี้กลับบ้าน

 

การวิเคราะห์เกมการแข่งขัน

 

ในช่วงแรกของการแข่งขัน ทีมชาติไทยได้แสดงให้เห็นถึงการครองบอลและกดดันทีมคู่แข่งอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทีมชาติอิรักก็สามารถตอบโต้ได้อย่างแมนเชิง โดยใช้ความคล่องตัวและทักษะที่เหนือกว่าในการป้องกันและสร้างเกมบุก

 

การวางตัวผู้เล่นและกลยุทธ์ของอิรัก เพื่อควบคุมเกมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุด ทำให้เกมคิงส์คัพครั้งนี้เป็นอีกเกมที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของทั้งสองประเทศ

 

ปัจจัยที่ส่งผลให้ทีมชาติไทยพ่ายแพ้

 

อันดับแรกคือการประสานงานในทีมที่ยังต้องปรับปรุง และอีกหนึ่งประเด็นคือวิธีการรับมือต่อยอดฝีมือของทีมคู่ต่อสู้อิรักที่เตรียมการมาดี นอกจากนี้ความกดดันในนัดชิงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่

 

บทเรียนและการเตรียมตัวสำหรับอนาคต

 

แม้จะพ่ายแพ้ในครั้งนี้ แต่การแข่งขันคิงส์คัพครั้งที่ 51 ครั้งนี้กลับเป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับทีมชาติไทยในการพัฒนาตัวเองต่อไป การนำประสบการณ์จากการแข่งครั้งนี้มาเป็นแรงพัฒนาจะช่วยให้พวกเขามีพลังในการกลับมาครั้งหน้าอย่างยิ่งใหญ่

 

นอกจากนี้ยังสามารถวางแผนในการฝึกฝน ความร่วมมือภายในทีมและการปรับปรุงกลยุทธ์ ควบคู่กับการเพิ่มความมั่นใจในการเล่นว่าจะช่วยให้ทีมชาติไทยกลับมายืนในวงการฟุตบอลได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

 

ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาทีมในระยะยาว

 

การสร้างนักเตะแบบรุ่นใหม่และฝึกฝนทักษะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้ทีมชาติไทยมีฐานการผลิตนักกีฬาไว้ให้ต่อเนื่อง การพัฒนาโค้ชและบุคลากรที่มีทักษะในการบริหารจัดการเกมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สามารถบริหารทีมได้สมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

ถึงแม้ทีมชาติไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายในครั้งนี้ แต่ทีมชาติไทยจะยังคงมีความมุ่งมั่นและปรารถนาในการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จในอนาคต โดยการแข่งขันทุกครั้งจะเป็นอีกหนึ่งขั้นบันไดที่ช่วยชุบการลุกขึ้นในเกมฟุตบอลระดับโลกต่อไป

ยูโร2024 17 Jul

ผู้สมัครห้าคนในการเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษแทน Gareth Southgate ถูกเปิดเผยหลังจากที่พ่ายแพ้ในศึกยูโร 2024 นัดชิงชนะเลิศ

## เจ้าชายกาเร็ธ เซาธ์เกต ใกล้จะลาตำแหน่งหลังอังกฤษแพ้สเปนในรอบชิงยูโร 2024

 

เจ้าชายกาเร็ธ เซาธ์เกต อาจพ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ หลังจากที่ทีมชาติอังกฤษพ่ายแพ้ต่อทีมชาติสเปนด้วยสกอร์ 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศของศึกยูโร 2024 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเขาจะนำทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบชิงอีกครั้ง ทีมของ เคน และเพื่อนร่วมทีมก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะมาได้ในเวลาปกติ

 

ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) แสดงความประสงค์ที่จะเก็บ เซาธ์เกต ไว้และพร้อมจะเสนอสัญญาใหม่อีกสองปีจากสัญญาปัจจุบันที่หมดอายุในเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เซาธ์เกต คาดว่าจะตัดสินใจลาออก ทำให้ FA ต้องทำการเตรียมแผนการสืบทอดตำแหน่งล่วงหน้า

 

### ผู้ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่ เซาธ์เกต

 

ทีมชาติอังกฤษมีผู้สมัครที่ถูกคัดกรองจำนวนห้าคนเพื่อเข้ามาแทนที่ เซาธ์เกต ซึ่งมีสามคนที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับเป็นพิเศษจากสมาชิกใน FA ได้แก่ เอ็ดดี ฮาว (Eddie Howe), เกรแฮม พอตเตอร์ (Graham Potter) และ มอริซิโอ โปเช็ตติโน (Mauricio Pochettino)

 

#### เอ็ดดี ฮาว

 

ปัจจุบัน ฮาว เป็นผู้จัดการทีมของนิวคาสเซิล (Newcastle United) แม้ว่าเขาจะมีความสุขในการทำงานที่เซนต์เจมส์พาร์ค แต่ตามรายงานของเดลีเมล เขายอมรับว่าอาจพิจารณาการทาบทามจากทีมชาติถ้ามีโอกาส นอกจากนี้ ฮาว ยังได้รับความชื่นชมจาก จอห์น แมคเดอร์มอต (John McDermott) ผู้อำนวยการเทคนิคของ FA ด้วยเช่นกัน

 

#### มอริซิโอ โปเช็ตติโน

 

โปเช็ตติโน อดีตผู้จัดการทีมเชลซี (Chelsea) แม้ว่าเขาจะเป็นคนอาร์เจนตินา แต่ FA ยังคงมีความหวังที่จะคัดเลือกผู้จัดการทีมที่มีความสามารถโดยไม่จำกัดชาติกำเนิด ชื่อเสียงและความสำเร็จของโปเช็ตติโนทำให้เขายังมีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้อยู่

 

### ผู้สมัครเพิ่มเติม

 

นอกจาก ฮาว และ โปเช็ตติโน ยังมีอีกหลายคนที่ถูกพูดถึง รวมถึง ลีกคาร์สลีย์ (Lee Carsley) ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ U21 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสัมภาษณ์เพิ่มเติม และ โทมัส ทูเคิล (Thomas Tuchel) ที่เพิ่งถูกปลดจากการเป็นผู้จัดการทีมบาเยิร์น มิวนิก (Bayern Munich) หลังจากที่ทีมเสียแชมป์ลีกให้กับเลเวอร์คูเซน (Leverkusen)

 

### อดีตนักเตะเข้ามาแรง

 

อีกทั้ง ยังมีอดีตนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ปัจจุบันหันมาทำงานเป็นผู้จัดการทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard) และ สตีเวน เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นผู้สมัครภายนอกที่มีแนวโน้มอีกด้วย

 

เซาธ์เกต ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ บนดินแดนต่างประเทศครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ (ฟุตบอลโลกปี 1966 และยูโร 2020 รอบชิงฯ นั้นจัดขึ้นที่เวมบลี) ยังคงเป็นที่นับถือ อย่างไรก็ตาม การคว้าชัยชนะไม่เป็นผลสำเร็จ และเมื่อทีมชาติอังกฤษกลับมาลงสนามอีกครั้งในเดือนกันยายน ทีมอาจมีผู้จัดการทีมคนใหม่ขึ้นข้างสนามได้

 

ทุกการเคลื่อนไหวของ FA ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในวงการ แทงบอล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงในบทบาทผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับแฟน ๆ ฟุตบอลและผู้ที่ติดตามการ แทงบอล ทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา

 

สิงห์บลู เชลซี 1 Feb

สิงห์บลู เชลซี เซ็นสัญญา ซีเย็ค ด้วยราคา 33.3 ล้านปอนด์

สิงห์บลู เชลซี

หลังจากมีข่าวลืมว่าสิงห์บลูส์ เชลซีต้องการฮาคิม ซีเย็ค ดาวรุ่งในตำแหน่งกองกลางจากสโมสรอาเอฟเซ อายักซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่โชว์ฝีไม้ลายมือให้เป็นที่ประจักษ์ไปในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อน จนถึงขั้นสัญญาปากเปล่าว่าจะทุ่มซื้อนักเตะหนุ่มถึง 45 ล้านปอนด์ และไม่ปล่อยให้ข่าวลืมแพร่สะพัดไปได้นาน ทางเชลซีได้ออกแถลงข่าวยืนยันว่า ได้ซื้อตัวซีเย็คมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในราคาสูงถึง 33.3 ล้านปอนด์ โดยสัญญาจะเริ่มเมื่อจบฤดูกาลนี้

เป็นที่ทราบกันดีในวงในว่า ซีเย็ค เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือชาวอังกฤษ ผู้จัดการทีมสิงห์บูลส์ เชลซีนั้น หมายหมั้นที่จะคว้าตัวมาในตลาดซื้อ-ขายนักเตะที่เปิดเมื่อมกราคมที่ผ่านมา หากแต่ทางสโมสรอายักซ์ปฎิเสธที่จะทำการซื้อ-ขายนักเตะในช่วงการฤดูกาล โดยเฉพาะลูกทีมคนสำคัญที่กุมชะตาของเกม

โดยในการแถลงของเชลซีได้กล่าวไว้ว่า ‘สโมสรฟุตบอลเชลซีได้บรรลุข้อตกลงกับทางสโมสรอาเอฟเซ อายักซ์ ในการเซ็นสัญญากับฮาคิม ซีเย็คในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขที่ซีเย็ค จะยังต้องอยู่กับทางสโมสรดัตช์จนจบฤดูกาลนี้”

โดยซีเย็คเอง ได้ทำผลงานไว้จนทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นหลักเนื้อหอมที่ใคร ๆ อยากได้ ทั้งการทำประตูไปถึง 8 ประตู และส่งบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมทำผลงาน 21 ครั้งในการลงแข่งทั้งหมด 30 เกม ตัวเขาเองนั้นได้เข้าร่วมกับสโมสรทเวนเต้ในปี 2016 โดยได้เซ็นสัญญาไว้เพียงสามปี

แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเชลซีเอง ได้มีการพูดถึงการเซ็นสัญญาระยะยาวกับนักเตะที่จะมาแทนที่เอเดน อาซาร์กองกลางของทีมอยู่เมื่อไม่นานมานี้ และถึงแม้ว่าซีเย็คเองจะยังไม่เท่าอาซาร์ แต่จากฟอร์มแล้วเขาสามารถพัฒนาไปได้จนถึงจุดนั้น

ซีเย็คเป็นที่น่าจับตามองในการแข่งที่ทีมอายักซ์เสมอ 4-4 ที่สนามกีฬาสแตมฟอร์มเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และการแข่งในรอบรองก่อนชิงชนะเลิศในแชมป์เปี้ยนส์ลีกที่พบกับสเปอร์ในฤดูกาลสุดท้าย ที่ถึงแม้สุดท้ายแล้วทีมอายักซ์จะพ่ายให้กับสเปอร์แต่ผลงานที่ซีเย็คทำไว้ก็สะดุดตาแฟรงค์ แลมพาร์ด และเสนอที่จะซื้อตัวเขาเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ทางอายักซ์เองต้องการจะให้เขาช่วยทีมจนจบฤดูกาลก่อนเนื่องจากยังมีการแข่งที่รอพวกเขาอยู่

ซึ่งต้องรอดูกันว่าเมื่อได้ซีเย็คมาร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนี้ เขาจะสามารถทำให้แฟน ๆ เชลซีภูมิใจได้หรือไม่

 

2 Nov

ฟิล โจนส์ ทำไมถึงยกระดับตัวเองขึ้นมาไม่ได้ (สักที)

วันก่อนมีข่าวออกมาว่า ฟิล โจนส์ กองหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาปฏิเสธการจัดเทสติโมเนียลแมตช์ของตัวเองแม้ว่าจะรับใช้สโมสรมาอย่างต่อเนื่องถึง 10 ปีด้วยกัน เจ้าตัวบ่นน้อยใจเล็กน้อยซึ่งก็ไม่แปลกที่แม้จะรับใช้ทีมมาถึง 10 ปี ว่ากันตามตรง เค้าก็ยังไม่ใช่กองหลังตัวกลางที่เป็นจริงระดับแกนหลักของทีมอีกเหมือนกัน เพราะอะไรทำไม ฟิล โจนส์ ถึงไม่สามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ เรามาวิเคราะห์กัน
เจ็บ เจ็บ เจ็บ แล้วก็เจ็บ
การเล่นฟุตบอลโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีคนั้น ปฏิเสธไมได้เลยว่าลีคนี้เล่นกัน แรง เร็ว โหด ดุ มาก ทั้งไหล่ชน เบียดทั้งบนพื้น กลางอากาศ การเข้าบอล ปั๊มบอลแบบไม่มียั้ง เสียบเป็นเสียบตายกันเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่จะมีอาการบาดเจ็บกันได้ ยิ่งฟิล โจนส์เล่นกองหลังด้วยแล้วการปะทะกับกองหน้าฝ่ายตรงข้ามถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ฟิล โจนส์ เองก็เช่นกัน เค้าบาดเจ็บบ่อยมาก ทำให้การเล่นไม่ต่อเนื่อง เล่นแล้วก็เจ็บ พอจะหาย ลงเล่นไม่เกิน 3 นัดก็เจ็บอีกวนอยู่อย่างนี้ไม่ไปไหน มันก็เลยทำให้เค้ายกระดับตัวเองไม่ได้สักที
เล่นบอล ต้องใช้สมอง
การเล่นกองหลังนั้นหากเล่นกองหลังตัวกลาง (เซนเตอร์แบ็ค) ถ้าเล่นระบบกองหลัง 4 คน เซนเตอร์แบ็คสองคนจะแบ่งหน้าที่กันชัดเจน คนหนึ่งเล่นตัวชน คอยเข้าปะทะกับกองหลังฝ่ายตรงข้าม เพื่อบดบี้ ขยี้ให้เล่นยากที่สุด แล้วให้อีกคนเป็นตัวรอง ตัวซ้อน เก็บบอลที่ฝ่ายตรงข้ามเล่นพลาดออกมา ส่วนใหญ่ฟิล โจนส์จะได้รับหน้าที่บทบาทแบบแรก ทีนี้การเล่นแบบเอาตัวเข้าสู้นั้นจริงอยู่ว่าต้องใช้ร่างกายปะทะ แต่มันก็ต้องใช้สมองในการเลือกจังหวะเข้าปะทะด้วย ไม่ใช่เอากำลังเข้าสู้อย่างเดียว หลายครั้งเราจะเห็นว่า ฟิล โจนส์ เข้าบอลแบบที่เรียกว่า เข้าพรวด จนเสียเหลี่ยมไปเอง ทำให้ทีมเสียประตู แถมดูเป็นตัวตลกไปด้วย
จากเหตุผลสองข้อดังกล่าว ทำให้เวลาเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่ เค้าก็มักจะเลือกซื้อกองหลังมาเล่นแทน ฟิล โจนส์ตลอด เพราะคิดว่า โจนส์ ไม่ดีพอจะลงเล่นให้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในฐานะแฟนบอลก็ต้องขอปรบมือในวิถีมืออาชีพของ ฟิล โจนส์ ที่ไม่เคยออกมางอแง เรียกร้องอะไรเลย ทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ก็หวังว่าเราจะได้เห็นเค้าขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมสักที

19 Oct

หากฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลไม่สามารถไปถึงตำแหน่งท็อปโฟร์ได้ ก็ถือว่าไม่ถึงกับเสียหาย!

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2019 ก็ได้ทำการเปิดทำการแข่งขันมาได้ซักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งเมื่อดูจากผลงานของเหล่าทีมใหญ่ทั้งหลายนั้น โดยรวมถือว่าทำผลงานในช่วงออกสตาร์ทกันได้ดีหลายทีมเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง เชลซี ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ซิตี้ และสเปอร์ส มีเพียงแค่แมนเชสเตอร์ยูในเต็ด และอาร์เซน่อลเท่านั้น ที่ออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ไม่ดีเท่าไหร่ ในบทความนี้เลยอยากจะหยิบเอาทีมอาร์เซน่อลมาพูดถึงกันหน่อย
สำหรับในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ที่ผ่านมานั้น อาร์เซน่อลของกุนซือ อูไน เอเมรี่ ถือว่า ออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ผิดฟอร์มพอสมควรเลย เพราะในช่วงสองนัดแรกของฤดูกาล อาร์เซน่อลภายใต้การทำทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง อูไน เอเมรี่ นั้น ไม่สามารถคว้าแต้มได้เลย และเมื่อดูจากรูปแบบการเล่น หรือพดตามประสาคนดูบอลว่า ทรงบอลของอาร์เซน่อลนั้น ก็ยังดูไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ จนทำให้หลายๆคนมองว่า ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลอาจจบฤดูกาลแค่อันดับในโซนยูโรป้าเท่านั้น ทำให้เลยในบทความนี้เลยอยากหยิบเอากระแสดังกล่าวนี้มาพูดในแบบคนดูบอลกันหน่อย เพราะสำหรับโดยส่วนตัวแล้ว แม้ฤดูกาลนี้หากอาร์เซน่อลไม่สามารถจบฤดูกาลด้วยการคว้าอันดับในโซนท็อปโฟร์ได้ ก็มองว่าไม่ได้เสียหายเท่าไหร่
โดยเหตุผลที่มองว่า แม้หากจบฤดูกาลนี้ ทีมอาร์เซน่อลของกุนซือ อูไน เอเมรี่ ไม่สามารถคว้าอันดับในโซนท็อปโฟร์ได้เป็นอย่างน้อยก็ตาม ยังมองว่าไม่ถึงกับเสียหายเท่าไหร่นั้น นั่นก็เพราะมองว่า ฤดูกาลนี้อาร์เซน่อลถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นก็คือการเปลี่ยนกุนซือคนใหม่เป็น อูไน เอเมรี่ ซึ่งเป็นธรรมดาที่กว่าทีมจะปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นแบบใหม่ของกุนซือคนใหม่ได้ ยังไงก็ต้องใช้เวลา เพราะหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อลเล่นในระบบของกุนซือคนเก่าอย่างอาร์เซน เวนเกอร์มาหลายปีเลย ทำให้การที่นักเตะจะปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นแบบใหม่ เลยต้องใช้เวลานั่นเอง
ในตอนนี้ ศึกฟุตบอลลีกดังต่างๆก็ได้เปิดฤดูกาลเริ่มต้นการแข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้ วงการพนันฟุตบอลออนไลน์ ก็ได้กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง และคงมีหลายๆคนที่เริ่มสนใจอยากจะลองหันมาเล่นพนันบอลออนไลน์กันดูบ้าง ท้ายบทความนี้เลยอยากแนะนำเว็บแทงบอลออนไลน์สำหรับใครที่ตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกใช้บริการเว็บไหนดี เว็บที่อยากแนะนำก็คือ เว็บ sbobet เหตุผลที่อยากแนะนำเว็บ sbobet นั้น ก็เพราะว่า sbobet เป็นเว็บแทงบอลออนไลน์ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ เป็นเว็บแทงบอลออนไลน์ที่เปิดบริการมานาน ซึ่งถ้าเลือกใช้บริการเว็บนี้ สามารถไว้วางใจเรื่องการจ่ายเงินจริงได้เลย เพราะถ้าจ่ายไม่จริง ก็คงไม่สามารถเปิดมาได้นานจริงมั้ย แถมยังมีโปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่ให้เลือกกันมากมายอีกด้วย

12 Oct

ลิเวอร์พูล ตั้งค่าปรับ 100 ล้านยูโรหาก ต่างดาว สอยแข้งไปก่อนปี 2020


สื่อดัง “Liverpool Echo” ได้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ได้ตั้งเงื่อนไขเรียกค่าปรับจาก บาร์เซโลน่า สูงถึง 100 ล้านยูโร (89 ล้านปอนด์)
ถ้าหาก “เจ้าบุญทุ่ม” คว้านักเตะเข้าไปร่วมทัพก่อนปี 2020

เงื่อนไขดังกล่าว เป็นข้อตกลงที่ทำเอาไว้ในช่วงที่ปล่อยตัวนักเตะชื่อดังอย่าง ” ฟิลิปเป้ คูตินโญ่” ไปอยู่ในถิ่น คัมป์ นู เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยค่าเหนื่อย 142 ล้านปอนด์
ซึ่งเป็นข้อตกลงในการย้ายทีมที่มีค่าตัวแพงลิบลิ่วสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล รองจาก เนย์มาร์ และคิลิย็อง เอ็มบัปเป้ เพียงแค่สองรายเท่านั้น

อีกทั้งรายงานยังระบุถึงเงื่อนไขดังกล่าวด้วยว่า ด้วยว่าเป็นแนวคิดของ “ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส” ผู้อำนวยการกีฬาของ “ลิเวอร์พูล” ที่ใส่ข้อตกลงกันเอาไว้เพื่อกันไม่ให้ บาร์เซโลน่า
เข้ามายุ่งเกี่ยวกับนักเตะซุปสตาร์ดังภายในทีม (ก่อนถึงปี 2020) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หงส์แดง มักจะเสียผู้เล่นคนสำคัญไปให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” นับตั้งแต่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่
ในฤดูกาล 2011/11 หรือแม้แต่กระทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ ในฤดูกาล 2014/15

28 Sep

ศึกแห่งศักดิ์ศรีในนามทีมชาติ

การต่อสู้เพื่อเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียนั้น นอกจากความเข้มข้นในเรื่องของฟุตบอล นักเตะ และแท็คติคที่สู้กันในสนามแล้ว เรื่องของศักดิ์ศรีแต่ละชาติที่จะมาห้ำหั่นกันนั้นก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ทำให้ยอมกันไม่ได้เลย โดยรอบคัดเลือกคราวนี้มีอยู่ 3 คู่ด้วยกัน ที่มากันด้วยเรื่องของศักดิ์ศรีล้วนๆ า

อังกฤษ ปะทะ สกอตแลนด์

คู่แรกขอเริ่มต้นที่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรปกันก่อนที่กลุ่มเอฟ มีอยู่สองทีมที่ต้องบอกว่าศักดิ์ศรีค้ำคอกันจริงนั่นก็คือ อังกฤษ และ สกอตแลนด์ ทีมร่วมเกาะสหราชอาณาจักร ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่บนเกาะเดียวกันแต่บอกเลยว่างานนี้ไม่มียอมกัน ถึงแม้ว่าอังกฤษจะเหนือกว่านิดๆ แต่ขาดกุนซือที่มีประสบการณ์ สกอตแลนด์ ก็อาจจะทำให้น้ำตาตกในได้เหมือนกัน

บราซิล ปะทะ อาร์เจนตินา

จากยุโรป ข้ามไปที่ลาตินอเมริกากันบ้าง แน่นอนว่าหากพูดถึงทวีปนี้ทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นทั้ง อริ และคู่แข่งกันแบบตลอดมาและตลอดไปก็ต้องเป็น บราซิล กับ อาร์เจนตินา ที่ต้องบอกว่าเจอกันเมื่อไร ใส่กันไฟแลบแน่นอน และครั้งนี้บราซิลต้องเปิดบ้านต้อนรับอาร์เจนตินา ดูจากฟอร์มแล้วบราซิล ดีกว่าอาร์เจนที่มีเมสซี่ กว่าเยอะ

เม็กซิโก ปะทะ อเมริกา

คู่สุดท้ายบินไปที่ทวีปอเมริกา ที่นี่ธรรมดาแล้วเกมทีมชาติไม่ค่อยสูสีกันเท่าไร แต่มีอยู่คู่หนึ่งที่ต้องบอกว่า “ห้ามพลาด” เลยก็คือ การเจอกันระหว่าง เม็กซิโก กับ สหรัฐอเมริกา ที่คราวนี้มีเรื่องของการเมืองนิดๆแทรกเข้ามาด้วย ยิ่งทำให้คู่นี้เป็นอะไรที่ต้องใส่กันไม่ยั้งแน่ๆ น่าสนใจว่า เม็กซิโก ที่น่าจะเหนือกว่าจะเอาชนะสหรัฐได้ไหม เชื่อเหอะว่าถึงใครหลายคนจะบอกว่ากีฬากับการเมืองไม่เกี่ยวกัน แต่คราวนี้รับรองว่าเกี่ยวกันจริงๆแต่จะรุนแรงแค่ไหนต้องติดตามในเกมเอาเองก็แล้วกัน