วิเคราะห์ ลิเวอร์พูล กับความเป็นไปได้อันดับสี่

17 May

วิเคราะห์ ลิเวอร์พูล กับความเป็นไปได้อันดับสี่

วิเคราะห์ ลิเวอร์พูล กับความเป็นไปได้อันดับสี่

พูดถึงลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์เก่า ต้องถือว่าพวกเค้าผิดฟอร์มไปเยอะเลย ตั้งแต่ เวอร์กิล ฟานไดค์ บาดเจ็บไป พวกเค้าก็ยังไม่กลับมาเป็นทีมเดิมอีกเลย จนถึงตอนนี้ ทีนี้พวกเค้าเหลือเป้าหมายอย่างเดียวที่จะต้องทำให้ได้ นั่นก็คือ การรั้งอันดับที่สี่ให้ได้ เพื่อโควตาฟุตบอลยุโรปในซีซั่นหน้าต่อไป เรามาวิเคราะห์กันว่า ลิเวอร์พูล จะทำได้หรือไม่

นักเตะมีประสบการณ์

สิ่งแรกที่เรามองว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของลิเวอร์พูล น่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ของนักเตะที่ทุกตำแหน่งถือว่าประสบการณ์ข้นคลั่กทีเดียว แม้ว่าที่ผ่านมาจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่ถ้าถึงคราวที่พวกเค้าต้องทำให้ได้ เราเชื่อว่าประสบการณ์ ความนิ่งของพวกเค้าน่าจะทำให้พวกเค้าเบียดทีมอื่นไปถึงเป้าหมายได้

โปรแกรมไม่หนัก

ในกลุ่มทีมลุ้นอันดับสี่ด้วยกัน เรามองว่าโปรแกรมของลิเวอร์พูลจะดูเบาที่สุดเลย เนื่องจากว่าเกมลีคนัดที่เหลือเค้าเจองานยากก็มีเพียงเกมแดงเดือดที่เลื่อนออกไปเท่านั้นเอง ที่เหลือไม่น่าจะเป็นงานยากเท่าไร ทั้ง เซาท์แธมป์ตัน, เวสต์บรอมวิช, เบิร์นลี่ย์ และคริสตัล พาเลซ เป็นนัดสุดท้ายปิดซีซั่น หากไม่นับผลของแดงเดือด เป็นไปได้สูงว่า ลิเวอร์พูล จะเก็บชัยชนะได้หมด แล้วจากนั้นก็ไปรอดูว่าทีมอื่นจะพลาดหรือไม่

ข้อเสียเรื่องความฝืด

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของลิเวอร์พูลที่จะไม่สามารถไปถึงฝันได้ในอันดับสี่ ก็อาจจะมาจากพวกเค้าเอง เพราะว่าตอนนี้สภาพกองหน้าของพวกเค้าเรียกว่า สิงห์ปืนฝืดจะดีกว่า สองเกมลีคล่าสุด พวกเค้ายิงได้เกมละหนึ่งประตูเท่านั้นเอง หากพวกเค้าต้องการชัยชนะในเกมที่เหลือ พวกเค้าต้องยิงให้ได้เยอะกว่านี้ เพื่อทำให้เกมขาดแบบไม่ต้องมาลุ้นเหนื่อย เนื่องจากอีกหนึ่งจุดอ่อนของพวกเค้าเรื่องเกมรับ ก็ยังทำงานอยู่ทุกเกม เกมลีคที่พวกเค้าชนะคลีนชีต นัดสุดท้ายต้องย้อนไปต้นเดือนเมษายนกันเลยทีเดียว หากพวกเค้ายิงได้ขาดและไม่เสียประตูจะดีมาก รวมถึงมีผลต่อลูกได้เสียในกรณีที่ต้องวัดกับทีมอื่นที่ทำแต้มตามมาเท่ากันได้ด้วย ต้องมาลุ้นกันว่าสุดท้ายช่องว่าง เจ็ด คะแนน ระหว่างลิเวอร์พูล กับเชลซี พวกเค้าจะทำได้หรือไม่

2 Dec

เพราะอะไร ทำไมบาร์ซาฟอร์มตก(ในลีค)

เพราะอะไร ทำไมบาร์ซาฟอร์มตก(ในลีค)

เราเปลี่ยนบรรยากาศไปดูฟุตบอลที่สเปน กันบ้าง ลาลีก้าสเปนซีซั่นนี้ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ส่วนหนึ่งเพราะว่ามหาอำนาจของวงการลูกหนักพวกเค้าเกิดฟอร์มตกพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย รีล มาดริด และ บาร์เซโลน่า อยู่ในสภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เจาะจงไปที่บาร์เซโลน่าพวกเค้าฟอร์มตกแบบน่าเกลียดเลย ล่าสุดแพ้ไปอีก 0-2 อะไรทำให้พวกเค้าฟอร์มตกได้ขนาดนี้

4-2-3-1 ไม่ใช่คำตอบ

ฟอร์เมชั่นที่ กุนซือของทีมอย่าง โรนัลด์ คูมัน หยิบมาติดตั้งให้กับทีมก็คือ 4-2-3-1 โดยให้ มาร์ติน เบรธเวธ ยืนหน้าเป้า แล้ว กองกลางทำเกมรุกสามคน คูตินโญ่, กรีซมันน์ และ เมสซี่ ดูจากรายชื่อบนหน้ากระดาษมันดูดีมาก แต่ว่าในสนามจริงฟอร์เมชั่นตัวนี้ ไม่เวิร์คเลย การวิ่งเล่นไลน์ของนักเตะดูทับ มั่วไปหมด เหมือนไม่ได้ซ้อมมาเลยทำให้เกมรุกที่เคยดุดันดูตีบตัน ดูทื่อไปเสียหมด พอรุกไม่คม ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่กลัว

ฟอร์มของนักเตะ

เมื่อฟอร์เมชั่นของทีม มันดูมั่ว ส่งผลต่อการเล่นของนักเตะโดยตรง มองไปที่ฟอร์มการเล่นต้องยอมรับว่า ตั้งแต่กองหน้าจนถึงผู้รักษาประตู อยู่ในสภาพฟอร์มตกกันหมดเลย เมสซี่ เล่นเต็มที่ แต่เหมือนรอย้าย , คูตินโญ่ ที่คิดว่าจะดี แต่ก็ทำได้ดีเป็นพักๆเท่านั้นไม่สามารถรักษาความต่อเนื่องได้, กรีซมันน์ก็ไม่แตกต่างกัน คนละคนกับตอนอยู่ แอต.

มาดริด , ปิเก้ ที่เคยแข็งแกร่ง หายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ และอีกหลายคนที่ฟอร์มตกอย่างมาก

โดนดักทางได้

อย่างที่เราเคยบอกไปว่า ฟุตบอลยุคนี้มันไม่ง่ายเหมือนเก่าแล้ว เทคนิคและแท็คติคถูกถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อเนื่องกันไป บาร์ซา เองเหมือนยืนอยู่กับที่ นักเตะหน้าเดิม วิธีการเล่นแบบเดิม นั่นก็ไม่แปลกที่จะโดนอ่านทาง ดักทางเอาไว้ก่อน แน่นอนว่าถ้าโดนอ่านไว้ว่าจะเอาใครลงสนามบ้าง เล่นอย่างไร อีกฝ่ายคงเตรียมรับมือมาแล้วเรียบร้อย พอลงสนามเราเลยเห็นหลายเกม บาร์ซา ตันมาก ไม่รู้จะเจาะอย่างไร พอเจาะไม่เข้าโหมบุกกระหน่ำ สุดท้ายโดนสวนกลับ กองหลังไม่เข้าบอลก็จบเลย ก็ต้องดูว่าบาร์ซาจะหาจุดเปลี่ยนของทีมได้ตอนไหน

7 Nov

เหตุการณ์ครั้งสำคัญประจำซีซั่นของ เชลซี

เหตุการณ์ครั้งสำคัญประจำซีซั่นของ เชลซี

หากจะบอกว่าทีมไหนในกลุ่มหัวตารางแฟนบอลเหมือนนั่งรถไฟเหาะมากที่สุด เรายกให้กับ เชลซี ก็แล้วกันต้องบอกเลยว่าตลอดซีซั่นนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทั้งร้ายและดี เรียกว่าทำเอาแฟนบอลปรับอารมณ์ไม่ทันเลยทีเดียว สุดท้ายต้องใช้คำว่า “จบสวย” สำหรับซีซั่นนี้

ปลด แฟรงค์ แลมพาร์ด

เราเชื่อว่าการเข้ามาคุมทีมของ อีกหนึ่งตำนานของทีมอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด เชื่อว่าหลายคนคงเห็นผลงานของเค้าที่ดาร์บี้แล้ถึงกับเคลิ้มเลยว่า พอมีลุ้นอะไรอยู่บ้าง ตอนต้นซีซั่นแฟรงค์ก็นำทีมออกสตาร์ทได้ดีตามเนื้อผ้า รวมถึงการนำนักเตะเข้ามาแบบใช้งานได้เลย แต่ว่าพอทำทีมไปสักระยะหนึ่ง แฟรงค์ ไม่สามารถยกระดับทีมให้ก้าวไปถึงระดับแชมป์ได้ ไหนจะทำให้คุณภาพของทีมยืนระยะไม่ได้อีก สุดท้าย บอร์ดบริหารต้องตัดสินใจปลดเค้าออกไป เรียกว่าทำให้แฟนบอลเสียงแตกทีเดียว บางส่วนอาจจะมองว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสินเค้าแบบนั้น อีกกลุ่มก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว บวกกับการเข้ามาของตัวแทนอย่าง โทมัส ทูเคิ่ล ชื่อชั้นหากจะว่ากันตามตรงประสบการณ์คุมทีมข้างสนามมีมากกว่า แฟรงค์อีก ก็เลยทำให้แฟนบอลที่ไม่เห็นด้วย พอทำใจยอมรับได้

ตบ ว่าที่แชมป์ลีค

การเข้ามาของทูเคิ่ล ต้องยอมรับว่า คนนี้ของจริง เนื่องจากว่าเค้าเข้ามาคุมทีมแบบที่ไม่ได้ซื้อใคร หรือ ขายใครเลย แต่กลับทำให้ทีมเชลซีที่ดูป้อแป้ กลายเป็นบูสต์ขึ้นมาใหม่ให้กลายเป็นทีมลุ้นถึงพื้นที่ท็อปโฟร์เลยทีเดียว สุดท้ายพวกเค้าก็ทำได้ด้วย แต่เกมที่เชื่อว่าเหตุการณ์สำคัญให้พวกเค้าทำได้ตามเป้า น่าจะเป็นเกมที่เอาชนะว่าที่แชมป์ลีคตอนนั้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แบบหมดจดก่อนจะย้ำแค้นอีกต่อในเกมรอบชิง ยูซีแอล

เจ้ายุโรป

แน่นอนว่าการเดินทางบนเส้นทางฟุตบอลยุโรปหลายคนคงไม่คิดว่า เชลซี จะเดินทางมาถึงแชมป์ได้ เนื่องจากว่าเค้าจะต้องเจอกับเสือสิงห์กระทิงแรดเยอะมาก จนสุดท้ายเค้าได้มาวัดชิงดำกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะดูเป็นรอง แต่เชลซี ก็สามารถหักปากกาเซียน เดินทางไปคว้าแชมป์ยุโรปได้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญของทีมเชลซีชุดประวัติศาสตร์ทีเดียว

5 Sep

สัญญาณความห่วยแตกของ รีล มาดริด จากเกมเมื่อคืน

สัญญาณความห่วยแตกของ รีล มาดริด จากเกมเมื่อคืน

เกมของรีล มาดริด เมื่อคืนต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ฟอร์มการเล่นของทีมแย่มาก จนเข้าขั้นห่วยแตกเลยก็ได้ แต่เอาจริงฟอร์มของรีล มาดริด ก็ไม่ได้ดีมานานแล้ว แต่ว่ายังไม่เห็นชัดเท่าไร ยังพอกลบด้วยชัยชนะไปได้แฟนบอลก็เลยทำเป็นไม่เห็นไป แต่ว่าเกมล่าสุดความพ่ายแพ้มันทำให้ทุกอย่างโป๊ะแตกออกมามีสัญญาณอะไรออกมาบ้าง

เกมรุก ไร้จินตนาการ

ต้องยอมรับว่ากองหน้าที่เชื่อใจได้มากที่สุดของรีล มาดริด ตอนนี้ก็คือ คาริม เบนเซม่า ตัวเก๋าชาวฝรั่งเศส นอกนั้นบอกเลยว่า ไม่เอาอ่าว การเล่นเกมรุกของเหล่ากองหน้าดูไร้จินตนาการมาก เล่นไปยังไงก็เจาะเค้าไม่ได้ การเล่นดูมันเบสิคเกินไปจนทำให้อีกฝ่ายกองหลังบอกเลยว่างานง่ายๆ สัญญาณนี้คงต้องบอกว่า ซีดาน อาจจะต้องซื้อกองหน้าตัวใหม่เข้ามา หรือไม่ก็ต้องเคี่ยวเข็ญให้ฟอร์มของพวกที่มีอยู่ดีกว่านี้ สากยังคมกว่าแบบนี้ อย่าหวังไปถึงแชมป์อะไรเลย คงยากมาก

กองหลังอ่อนยวบ

เกมนี้เอาจริง ความผิดพลาดระดับมือสมัครเล่นของ ธิโบ คูร์กตัวส์ เป็นเรื่องควรตำหนิอย่างรุนแรงก็จริง แต่เอาจริงเราจะมองข้ามสัญญาณความห่วยแตกในเกมรับไปไม่ได้เลย ตอนนี้ทั้งแผงกองหลังรับมือได้คนเดียวก็คือ ราฟาเอล วาราน แต่วารานเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเจ็บขึ้นมาอีกตอนไหน ยิ่งตอนนี้ รามอส ไม่อยู่ในทีมด้วย เราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเค้าจะต้องโดนไปอีกกี่ประตู หลายคนที่เคยแข็งแกร่ง ตอนนี้กลับกลายเป็นบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ อย่าง มาร์เซโล่ บอกตามตรงว่าอาจจะต้องถึงเวลาแยกย้ายแล้ว ฟอร์มนัดนี้ก็บอกแล้วว่า ทำอะไรไม่ได้เลยรับก็แย่ รุกก็ไม่ได้เรื่อง หากไม่รีบหาคนมาเปลี่ยนบอกเลยว่าเน่าเอาได้

อาซาร์ บอกลา

อีกหนึ่งเพลย์เมกเกอร์ที่ซื้อมาราคาแพง แต่เหมือนโดนย้อมแมวมาขาย เอแดง อาซาร์ เปิดตัวกับรีล มาดริดได้ดี แต่หลังจากเจ็บซ้ำซาก แล้วปล่อยตัวให้อ้วน ตอนนี้เค้าห่างไกลกับฟอร์มอันยอดเยี่ยมตอนอยู่เชลซี เกมเมื่อคืนก็เจ็บอีกแล้ว เรามองว่านี่เป็นสัญญาณห่วยแตก(อีกแล้ว) คงต้องขายออกไปได้แล้ว ไม่ต้องทนทู่ซี้เก็บเอาไว้หรอก

3 Aug

ตรวจการบ้าน เลสเตอร์ ทำอะไรไปแล้วบ้าง

ตรวจการบ้าน เลสเตอร์ ทำอะไรไปแล้วบ้าง

เลสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่พวกเค้าประสบความสำเร็จในการทำทีมอย่างมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การขึ้นไปคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นสมัยแรกของสโมสรอีกด้วย การเอาชนะเชลซีได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคนี้ แต่ว่าการพลาดตั๋วไปเล่น UCL จากความผิดพลาดช่วงท้ายซีซั่นก็เป็นเรื่องที่ควรได้รับการแก้ไขอีกเหมือนกันเพราะมันเป็นแบบนี้มาสองซีซั่นแล้ว ทีนี้การซื้อขายของเลสเตอร์ ซิตี้อยากให้จับตาให้ดี ซื้อของดี ใช้งานได้ ขายต่อกำไรงามตลอด

นำเข้ามิดฟิล์ตัวรับคนใหม่

ตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรับ ถือว่าเป็นจุดแข็งของเลสเตอร์เลยทีเดียว ไม่รู้ทำไม พวกเค้ามักจะหาคนเก่งในตำแหน่งนี้ได้ตลอดมตั้งแต่กองเต้แล้ว มาตอนนี้ก็เป็น วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ซึ่งดูแล้วอีกไม่นานก็น่าจะทำกำไรให้กับทีมได้ ทีนี้พวกเค้าก็เตรียมหาคนเอาไว้สลับแล้วนั่นก็คือ บูบาการี่ ซูมาเร่ จากลีลล์ ที่เซ็นสัญญายาวถึงห้าปี คนนี้บอกเลยว่าเป็นตัวสำคัญของลีลล์ในการพาทีมเป็นแชมป์ลีคด้วย ถือว่าเป็นดีลที่น่าสนใจมาก

ตัวแทน วาร์ดี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เจมี่ วาร์ดี้ แม้ว่าตอนนี้เค้าจะไม่ใช่คนเดิมที่อันตรายและรวดเร็ว แต่การเล่นของเค้ายังมีประโยชน์กับทีมเสมอ แต่วัฎจักรฟุตบอลมันก็ไม่รอใครเหมือนกัน เลยทำให้ตอนนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องรีบมองหาตัวแทนของเค้าในระยะยาวแล้ว ซึ่งตอนนี้ พวกเค้าได้ซื้อ แพทสัน ดาก้า กองหน้าชาวแซมเบีย จาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อย ดูจากชื่อชั้น อายุ และประสบการณ์คงยังบอกไม่ได้ว่าจะปังหรือแป๊ก แต่ก็ถือว่าเป็นออฟชั่นเสริมในแดนหน้าที่น่าสนทีเดียว

รีไทร์นักเตะ

ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรของมัน นักเตะเองก็อยู่ภายใต้กฎนี้เช่นกัน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำการรีไทร์นักเตะของตัวเองสองถึงสามคน เพื่อเคลียร์ที่ว่างในทีม ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน ฟุคส์ , เวส มอร์แกน เป็นต้น แม้จะเป็นเรื่องที่น่าใจหายแต่ก็ต้องยอมรับความจริงในจุดนี้ด้วยเหมือนกัน ก็ได้แต่หวังว่า เลสเตอร์ จะหาคนมาแทนที่ได้เร็วๆนี้ เตอร์ ซิตี้ ได้ทำการรีไทร์นักเตะของตัวเองสองถ

8 Jul

บาร์เซโลนา ผู้แพ้ในตลาดหน้าหนาวรอบนี้

บาร์เซโลนา ผู้แพ้ในตลาดหน้าหนาวรอบนี้

ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวปิดตัวลงไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นสัญญาณบอกว่า การชิงชัยในฟุตบอลทุกลีค กำลังจะเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าการเสริมทัพในรอบนี้มีทั้งคนสมหวังและผิดหวังกันไปตามวิถีทาง วันนี้เรามาดูกันว่าหากมองในแง่ของทีมฟุตบอล ใครเป็นผู้ที่ผิดหวัง จนเราบอกว่าเป็นผู้แพ้ได้เลยในรอบบนี้

บาร์เซโลน่า ไม่มีตัวแทน เมสซี่

หากจะหาใครสักคนที่มองว่าเป็นผู้แพ้ในตลาดรอบนี้ เรามองว่า บาร์เซโลน่า เป็นผู้แพ้อย่างสมบูรณ์แบบ ประเด็นแรกเป็นเรื่องของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ต่อสัญญา และมีแววว่าจะไปอย่างแน่นอน นั่นทำให้ตลาดรอบนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญในการหาตัวแทนของเมสซี่ หรือ คิดเผือว่า เมสซี่ไป จะเอาใครมาแทนหากเอามารอบนี้กว่าจะเล่นไปอีกครึ่งฤดูกาล ก็น่าจะปรับตัวทันใช้งานต่อในซีซั่นหน้าได้พอดี แต่บาร์ซ่าไม่ได้ซื้อใครมาแทนเลย

วิกฤติการเงินชัดเจน

ปัจจัยที่ทำให้การซื้อนักเตะของบาร์ซ่า ติดลบและทำได้ยากมากคงเป็นเรื่องวิกฤติการเงินที่ท่านประธานคนเก่าได้ทำไว้แสบมาก บวกกับเป็นเรื่องที่หมักหมมมานานทำให้ตอนนี้ บาร์ซ่า กลายเป็นทีมที่มีหนี้ก้อนโตผูกติดเอาไว้ นั่นทำให้พวกเค้าไม่สามารถขยับตัวไปทำอะไรได้เลย ยิ่งไม่ได้ซื้อในเวลาที่ต้องซื้อแบบนี้เท่ากับว่าเป็นการแสดงตัวชัดเจนว่า พวกเค้าไม่มีเงินจริงๆ คงกระทบไปถึงตลาดรอบหน้าด้วย

ปล่อยใครไม่ออก

ในเมื่อเจอวิกฤติการเงิน ทางเดียวที่จะช่วยได้ก็คือ การปล่อยนักเตะออกจากทีมไปเพื่อลดค่าเหนื่อย แต่ทางบาร์ซา ก็ทำไม่ได้อีก เพราะว่านักเตะติดเงื่อนไขส่วนตัวมากมาย รวมถึงราคาที่จะปล่อยออกไปก็แพงมากทั้งค่ายืม และค่าเหนื่อย นั่นทำให้แต่ละทีมที่จะเอานักเตะไปก็คิดหนักเหมือนกันสุดท้ายเลือกที่จะไม่เอาดีกว่า กลายเป็นบาร์ซา ทำอะไรไม่ได้เลยตอนนี้

5 Jun

ส่งเด็กลงเล่น เอฟเอคัพ เรื่องนี้ต้องตรองให้ดี

ส่งเด็กลงเล่น เอฟเอคัพ เรื่องนี้ต้องตรองให้ดี

แม้ว่าตอนนี้ เอฟเอคัพ รอบสี่ยังหาผู้เข้ารอบได้ไม่สะเด็ดน้ำเท่าไรนัก บางคู่อาจจะลอยลำไปรอก่อนแล้ว แต่บางคู่อาจจะยังหาผู้ชนะไม่ได้ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันอีกทีหนึ่งในนั้นก็เป็นลิเวอร์พูลที่ทำให้เรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากด้วยการเสมอกับ ชรูส์ว์บิวรี่ไป 2-2 ทำให้ต้องไปเตะกันอีกรอบที่แอนฟิลด์

เกมที่ส่งเด็กลงสนาม
ทีนี้ใครที่ไม่ได้ดูเกมที่ชรูสว์บิวรี่ เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 อาจจะไม่รู้ว่า ทางลิเวอร์พูลเองส่งเด็กลงสนามเกือบค่อนทีม เหลือตัวจริงไม่กี่คนเท่านั้น แล้วพอเกมจะเสมอค่อยส่งนักเตะตัวจริงลงมาประคองเกมเพื่อเอาชนะแต่ไม่ทัน แต่ไม่เพียงเท่านั้นโค้ชผู้คุมข้างสนามก็ไม่ใช่คล็อปป์นะในตอนแรก เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมซึ่งเป็นหัวหน้าโค้ชของชุด u23 นั่นเองที่คล็อปป์เปิดโอกาสให้ก่อนที่เจ้าตัวจะลงมากำกับเองในช่วงโค้งสุดท้ายแต่ไม่ทัน

เตรียมส่งเด็กอีกรอบ
จากผลเสมอดังกล่าวทำให้ คล็อปป์ เตรียมออกมาวางแผนใหม่ด้วยการให้ทีมงานชุดเดิม นักเตะหน้าเดิม ลงสนามอีกครั้งเพื่อเตะกับ ชรูสว์บิวรี่ รวมถึงโค้ชด้วย ตัวเองอาจจะไม่ได้ลงมาเต็มสูบ ทำเอาเริ่มมีหลายกระแสมองเห็นแตกต่างกันไปในกรณีนี้ ส่วนหนึ่งเห็นด้วยเพื่อให้นักเตะชุดใหญ่ได้พักผ่อนจากช่วงเบรกหนีหนาวก่อนจะกลับมาสู้กันอีกรอบช่วงปิดฤดูกาล พวกเค้ามองว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลต้องพุ่งเป้าที่แชมป์ลีคเป็นหลักก่อน ถ้วยอื่นอาจจะสละไปเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย แต่อีกฝ่ายก็มองว่าการทำแบบนี้เหมือนไม่ให้เกียรติถ้วย เอฟเอคัพ และคู่ต่อสู้เลย ถ้าหากทำได้ นี่จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับอีกหลายทีมที่จะส่งเด็กเหมือนทิ้งถ้วยใบนี้ไปเลย ไม่ได้ส่งทีมที่ดีที่สุดลงสนาม

ก็ต้องดูว่า ทาง เอฟเอ ผู้จัดการแข่งขัน จะเคลียร์คิวกับ ทางพรีเมียร์ลีคอย่างไร เพราะกรณีนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานการทำงานของทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีคต่อไปด้วย

 

10 Apr
5 Apr

อย่าเพิ่งดีใจ มันเป็นแค่การเริ่มต้น

อย่าเพิ่งดีใจ มันเป็นแค่การเริ่มต้น

เห็นข่าวที่ออกมาว่า เมสซี่ ออกมาแถลงการณ์เองว่า เค้าต้องการจะอยู่กับทีมต่อไปจนหมดสัญญาแน่นอนว่า แฟนบอลคาตาลันอาจจะยิ้มดีใจที่เรื่องราวอันแสนวุ่นวายได้จบลงเสียที จะได้หันมาจับมือจูบปากกันพัฒนาทีมต่อไปในซีซั่นหน้าที่จะเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่วันแล้ว แต่เราจะบอกว่า อย่าเพิ่งดีใจไป การออกมาเปลี่ยนใจไม่ไปมันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นความวุ่นวายครั้งใหม่เท่านั้นเอง เปรียบไปก็เหมือนกับกระแสน้ำวนที่เริ่มก่อตัวแบบลึกจนเรามองไม่เห็น อะไรทำให้คิดแบบนั้น
ความสัมพันธ์ภายในทีม
ข้อแรก แม้ว่าจะมีการออกมาบอกว่า จะไม่ไปไหน เล่นกันอยู่ที่บาร์ซาเหมือนเดิม แต่หากยังจำกันได้ เมสซี่ ยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเท่าไรกับ ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง โรนัลด์ คูมัน ทีนี้หากนักเตะผู้นำทีมมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้จัดการทีม มันก็ยากจะทำให้ทีมเดินหน้าไปได้ นี่ยังไม่นับความสัมพันธ์ในทีมของนักเตะที่อาจจะเกิดความสงสัยว่า พวกเค้าจะเดินหน้าไปอย่างไร ซึ่งแน่อนนว่ามันจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของข่าว กอสซิป ที่อาจจะน่ารำคาญแต่มันทำให้ทีมล้มได้เหมือนกัน
ศึกชิงเก้าอี้ประธานสโมสร
ในปีหน้า บาร์เซโลนา จะต้องเจอกับเหตุการณ์สำคัญในการเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การเลือกตั้งประธานสโมสรอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้บอกเลยว่าศึกชิงเก้าอี้ประธานสโมสรรอบนี้ จะดุเดือดแน่นอน โดยหัวข้อที่ผู้ลงสมัครจะเอามาเป็นหัวข้อหลัก เป็นเมสซี่แน่นอน ซึ่งการเขย่าจากบรรดาผู้ลงสมัครที่อาจจะใช้เมสซี่ มาเป็นเครื่องมือของตัวเอง บอกได้เลยว่าศึกครั้งนี้จะทำให้ทีมมีข่าวอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมายจนทำให้ทีมระส่ำได้เหมือนกัน
ผลงานในสนามที่ยังไม่รู้
การกลับลำไม่ไป สิ่งที่แฟนบอลคิดต่อไปคงเป็นเรื่องที่ว่า สุดท้ายเมสซี่จะลงสนามในสีเสื้อนี้หรือไม่ ถ้าลงแล้วจะเล่นดี เล่นเต็มที่แค่ไหน ยังไม่หมดทุกอย่างจะตัดสินกันที่ผลงานในสนามที่ยังไม่รู้เลยว่าจะออกหัวหรือก้อย หากชนะก็ดีไป (แต่เราเชื่อว่าไม่) แต่ถ้าหากแพ้ละก็ สารพัดเรื่องราวจะต้องถูกขุดขึ้นมาเสียจนกลายเป็นสงครามย่อมๆเลย จากทั้งหมดนี้เราถึงบอกไงว่า อย่าเพิ่งดีใจ มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้นเอง